วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คำสั่งแสดงผล echo , print และความแตกต่าง

        คำสั่ง PHP  ที่ทำให้มีการแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นบนหน้าเว็บ ที่มีการใช้กันบ่อยมากที่สุด คือ echo และ print

echo กับ print แตกต่างกันอย่างไร?
       echo เป็นคำสั่งแสดงผล ที่ไม่มีการ return ค่ากลับ ดังนั้นทำให้ระบบมีการทำงานในการแสดงผลเร็วกว่า print และแสดงผลในรูปแบบคำสั่งประโยคที่ไม่ซับซ้อน
       print เป็นคำสั่งแสดงผล ที่มีการ return ค่ากลับ ค่าที่ได้คือ true , false เพื่อใช้ในนำไปตรวจสอบว่าระบบได้ทำการแสดงผลออกมาหรือไม่ และสามารถแสดงผลประโยคที่ซับซ้อนได้ จึงทำให้การแสดงผลช้ากว่า echo อยู่เล็กน้อย


ตัวอย่าง
       <?php
              echo " echo : Hello world !" . "<br />";
              print " echo : Hello world !" . "<br />";
       ?>

ผลลัพธ์
       echo : Hello world !
       print : Hello world !

       ถ้าให้มีการแสดงผลที่ไม่ซับซ้อน คำสั่งทั้ง 2 ก็จะแสดงผลออกมาเหมือนกัน หรือไม่ต่างกันเลย

กำหนดตัวแปร PHP ไว้เก็บค่า

       ตัวแปรเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแทนค่าเพื่อนำไปประมวลผล ตามที่ต้องการที่จะให้โปรแกรมทำงานให้ตามที่ต้องการ เช่น $value=1; โดยเราสามารถกำหนดตัวแปรไว้เรียกใช้งานได้ตลอดหน้า PHP นั้น

กฎการตั้งชื่อตัวแปร

  • ขึ้นต้นด้วย $
  • ตามด้วย A-Z หรือ a-z หรือ 0-9  เช่น  $myvalue;  $MyValue; 
  • ไม่ควรเว้นวรรค แต่ใช้ _ แทน เช่น $my_value;  $My_Value; 
  • Case Sensitive ตัวพิมพ์ใหญ่/เล็กถือเป็นคนละตัว
  • ไม่ตั้งชื่อซ้ำคำสงวน เช่น $_POST; $_SESSION; $_GET; $_SERVER; ฯลฯ
      เมื่อประกาศตัวแปร PHP ไม่จำเป็นต้องกำหนดชนิดของตัวแปร ซึ่งโปรแกรมคอมไพล์จะรู้เองว่า ตัวแปรไหนเป็นข้อมูลชนิดใด 

ชนิดของตัวแปร

  • Boolean  ->  True , False
  • Integer  ->  เลขจำนวนเต็ม
  • Float  ->  เลขจำนวนจริง
  • String  ->  ตัวอักษรที่นำไปคำนวณทางคณิตศาสตร์ไม่ได้
  • Array  ->  ตัวแปรชุด
  • Object  ->  เก็บคุณสมบัติของ Object
  • Resource -> สำหรับอ้างอิงถึงแหล่งภายนอก  เช่น  การเปิดไฟล์ข้อมูล การเชื่อมต่อฐานข้อมูล
  • Null -> ตัวแปรที่ไม่มีค่าอะไรเลยเรียกว่ามีค่าเป็น Null เช่น เมื่อประกาศตัวแปรแล้วแต่ยังไม่ได้กำหนดค่าใดๆให้ตัวแปร กำหนดค่าให้ตัวแปรมีค่าเป็น Null $MySalary = NULL;


ตัวอย่างโค้ด ex_setvalue.php

      <?php
             $Name = 'Manop Kongoon';           //String Variable 
             $RoomNo='405';                             //String Variable 
             $maximum_score = 100;                //Integer Variable 
             $_is_a_student = true;                    //Boolean Variable 
             $TotalScore=10+30; 
             $Score1=10; 
             $Score2=30; 
             $TotalScore=$Score1+$Score2; 

             echo "$Name = " . $Name . "<br />";
             echo "$RoomNo " . RoomNo . "<br />";
             echo "$maximum_score " . $maximum_score . "<br />";
             echo "$_is_a_student " . $_is_a_student . "<br />";
             echo "$TotalScore " . $TotalScore . "<br />";
             echo "$Score1 " . $Score1 . "<br />";
             echo "$Score2 " . $Score2 . "<br />";
             echo "$TotalScore " . $TotalScore . "<br />";
      ?>

ผลลัพธ์ ex_setvalue.php


             $Name = Manop Kongoon
             $RoomNo = 405
             $maximum_score = 100
             $_is_a_student = true
             $TotalScore = 40 
             $Score1 = 10; 
             $Score2 = 30; 
             $TotalScore= 40

-------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างการกำหนดชนิดของตัวแปร ex_typevalue.php
      <?php 
            $x = 12; 
            $x = (integer)$x; 
            $y=‘Manop Kongoon’; 
            $y=(string)$y; 
            $z=95.89; 
            $z = (integer)$z;       //$z=95
            $MyNum=(integer)$z;       //$MyNum=95

            echo $z."<br>"; 
            echo $MyNum; 
      ?> 

ผลลัพธ์ ex_setvalue.php
      95
      95

----------------------------------------------------------------


ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.programmerthailand.com/tutorial/post/view/7/php-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2-php

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แท็ก PHP

แท็ก PHP มีการใช้งานอยู่ 2 แบบ
1. แบบเต็ม  <?php  //Code     ?>
2. แบบย่อ    <?       //Code     ?>

       ถ้าเป็นแบบย่อ ที่เครื่อง Server ทั้งแบบจำลอง และ Hosting (server จริง) จะต้องทำการเซ็ตค่า "short_open_tag =  on" ก่อน ถ้ายังไม่เซ็ตจะทำให้การแสดงผลผิดพลาดได้


ตัวอย่างการเขียน แบบย่อ

โค้ดไฟล์  shorttag_test.php
       <html>       <body>
       <?
       $name = “PHP Funny”
       echo “สวัสดีฉันชื่อ “$name .”<br/>”;

       ?>
       </body>
       </html>


แสดงผลไฟล์  shorttag_test.php
      
        สวัสดีฉันชื่อ PHP Funny

       ถ้าหากแสดงผลผิดพลาดไม่เหมือนด้านบน  เป็นอักษรอ่านไม่ออกหรือเป็นหน้าว่าง แสดงว่ายังไม่ได้ทำการเซ็ตค่า "short_open_tag =  on" ถ้าเป็นการแสดงผลบน เครื่อง Server จำลอง ให้แก้ไขไฟล์  php.ini ดังรูป


       เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ในการทำงานประมวลผลข้อมูลของเว็บไซต์  ควรเขียนรูปแบบ แท็กที่ 1 จะได้ไม่ต้องมาแก้ไขกันภายหลัง

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ติดตั้งโปรแกรมจำลอง Web Server (localhost)

       โปรแกรมจำลอง Web Server บนเครื่อง PC สำหรับพัฒนาโปรแกรมเว็บไซต์ด้วย PHP ซึ่งมีอยู่หลายตัวที่ให้ใช้งานกันได้ฟรี แต่ที่จะแนะนำให้ใช้งานมีอยู่ 3 ตัวที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ดังนี้

                       1.  Wampserver  คลิกดาวน์โหลด
                             คลิกดูวิธีติดตั้ง

                        2. Xampp คลิกดาวน์โหลด
                             คลิกดูวิธีติดตั้ง

PHP คืออะไร ?





       PHP ย่อมาจาก PHP Hypertext Preprocessor แต่เดิมย่อมาจาก Personal Home Page เป็นภาษา OpenSource จำพวก scripting language จะเก็บอยู่ในไฟล์ที่เรียกว่า script และเวลาใช้งานต้องอาศัยตัวแปรชุดคำสั่ง จากทาง Web Server เสียก่อน แล้วจึงค่อยส่งผลลัพธ์ที่ได้ให้เรา ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็คือเว็บเพจที่เราเห็นนั่นเอง  ถือได้ว่า PHP เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถสร้าง Dynamic Web pages (เป็นเว็บเพจที่มีการเปลียนแปลงข้อมูลอยู่ตลอดเวลา) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
       PHP เป็นภาษาสำหรับใช้ในการเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ได้อย่างหลากหลาย ในรูปแบบ Web application ที่มีการเพิ่ม ,ลบ ,แก้ไข ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งทำให้สามารถใช้ข้อมูล หรือจัดการข้อมูลร่วมกันจากที่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นภาษาหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาพัฒนาเป็นโปรแกรมแบบ CMS (Content Management System) เป็นระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป ที่เราคุ้นเคยหรือเคยได้ยินเช่น Drupal , Joomla, Wordpress เป็นต้น
       ถ้าจะเขียนภาษา PHP ให้สามารถสร้าง Dynamic Web pages ที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องเขียนให้ทำงานร่วมกับ ภาษาต่างๆนี้คือ HTML(ภาษาแสดงผลในรูปแบบเว็บ) + JavaScript(ทำให้เว็บตอบสนองต่อการกระทำของผู้ใช้) + CSS(ทำให้เว็บดูสวยงามและหน้าสนใจ) + MySQL(เป็นฐานข้อมูลใช้เก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน) ซึ่งภาษาเหล่านี้จะอยู่ในบทถัดไปครับ
       สำหรับผู้พัฒนาเว็บไซต์ด้วย PHP นั้นปรกติจะทำการจำลองเครื่องของตัวเองให้เป็น Web Server ระหว่างการพัฒนาเพื่อดูการทำงาน ของโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาครับ เมื่อพัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะอัพไฟล์ทั้งหมดลงใน Web Server จริงครับ เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาใช้งานเว็บที่เราสร้างได้ครับ