วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

คำสั่งค้นหาและแทนที่คำ str_replace()

คำสั่ง str_replace() ใช้ในการแทนที่ คำ อักษร หรือข้อมูล ในประโยค

รูปแบบคำสั่ง str_replace(find,replace,string,count)
find = ข้อมูลที่ทำการคนหา
replace = ข้อมูลที่จะนำไปแทนที่
string = ประโยคหรือข้อความที่จะทำการแทนทีคำ
count = ตำแหน่งหรือจำนวนของข้อมูลที่จะแทนที่ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

Code ตัวอย่าง 1
       <?php
              $string = "Hello world";
              echo "result : ".str_replace("world","jonh",$string);
       ?>

ผลลัพธ์ตัวอย่าง 1
      result : Hello jonh


-----------------------------------

Code ตัวอย่าง 2
       <?php
              $arr = array("blue","red","green","yellow");
              print_r(str_replace("red","pink",$arr,$i));
              echo "<br>" . "Replacements: $i";
       ?>


ผลลัพธ์ตัวอย่าง 2
      Array ( [0] => blue [1] => pink [2] => green [3] => yellow )
      Replacements: 1

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การแบ่งแยกคำออกจากประโยค explode()

       คำสั่ง explode() ใช้สำหรับแบ่งแยกคำออกจากประโยคให้อยู่ในรูปแบบ เป็นคำๆ โดยใช้สัญลักษณ์ หรืออักษรเป็นตัวกำหนดจุดที่จะแยกคำออกมา

รูปแบบการใช้คำสั่ง  explode(separator,string,limit)
separator = สัญลักษณ์ หรืออักษรเป็นตัวกำหนดจุดที่จะแยกคำ
string = ข้อความที่จะแยกออก
limit = กำหนดจำนวน index array ที่เก็บค่าคำที่แยกออกมา(จะกำหนดหรือไม่ก็ได้)


Code ตัวอย่าง
       <?php
              $str = "สวัสดี เพื่อนๆ ทุกคน";
              $result = explode(" ",$str); 
              print_r ($result);

              echo "<br/>";

              $result = explode(" ",$str,1);
              print_r (
$result);
       ?>

ผลลัพธ์ตัวอย่าง

       Array ( [0] => สวัสดี [1] => เพื่อนๆ [2] => ทุกคน  )
       Array ( [0] => สวัสดี [1] => เพื่อนๆ ทุกคน  )

--------------------------------------------------------

คำสั่ง ตัดคำในข้อความ substr()

คำสั่ง substr() เป็นคำสั่งตัดข้อความที่ต้องการออกมาจากประโยค

รูปแบบคำสั่ง  substr(string,start,length)
string = ประโยคเต็มๆที่ต้องการจะตัดออก
start = ตำแหน่งตัวอักษรที่จะเริ่มตัด
length = ความยาวของคำที่ต้องการตัดออกมา

Code ตัวอย่าง
       <?php 
              $date = date("dmY");
              echo "วันที่ต้องการจะตัดออก = ".$date;
              echo "<br/>วัน = ".substr($date, 0, 2);
              echo "<br/>เดือน = ".substr($date, 2, 2);
              echo "<br/>ปี = ".substr($date, 4, 4);
       ?>


ผลลัพธ์

       วันที่ต้องการจะตัดออก = 05082016
       วัน = 05
       เดือน = 08
       ปี = 2016


--------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การ comment code php

comment code ในภาษา PHP จะใช้    //  และ  /*........*/   การคอมเม้นโค้ดมีจุดประสงค์หลัก 2 ประการ

  1. อธิบายรายละเอียดการทำงาน ของ code ที่เขียน ซึ่งจะพบมากในการทำงานเขียนโปรแกรมหลายคน เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าคำสั่งที่เราเขียนมามีหน้าที่ทำอะไร และจะเป็นประโยชน์สำหรับให้นักพัฒนาโปรแกรมคนอื่น ที่มาทำงานต่อจากเราได้รู้ และเข้าใจการทำงาน หรือหน้าที่ของคำสั่งโปรแกรมที่เราเขียน จะทำให้มาพัฒนาหรือแก้ไขโปรแกรมต่อจากเราได้เร็วขึ้น
  2. ซ่อน หรือ ไม่ต้องการให้โปรแกรม ทำงานคำสั่งนั้น ซึ่งจะถูกใช้เมื่อตอนที่มีการทดสอบคำสั่งโปรแกรม และต้องมีการแก้ไขคำสั่งนั้นบ่อยๆ

ความแตกต่างของสัญลักษณ์ comment code
  1. " // " จะใช้สำหรับการ comment code ใน 1 บรรทัด
  2. " /*.....*/  จะใช้สำหรับการ comment code หลาย บรรทัด

Code ตัวอย่างที่ 1
       <?php
              // นำตัวแปร บวกด้วย 5 จำนวน 2 ครั้ง
              $Num = 10;
              $Num = $Num+5;
              $Num = $Num+5;
              //$Num = $Num+5;

              echo $Num;
       ?>

ผลลัพธ์ตัวอย่างที่ 1

       20   

------------------------------------------------------


Code ตัวอย่างที่ 2
       <?php
              // นำตัวแปร บวกด้วย 5 จำนวน 4 ครั้ง
              $Num = 10;
              $Num = $Num+5;
              $Num = $Num+5;
              $Num = $Num+5;
              $Num = $Num+5;

              /*
              $Num = $Num+5;
              $Num = $Num+5;
              $Num = $Num+5; 
              $Num = $Num+5;
              */

              echo $Num;
       ?>

ผลลัพธ์ตัวอย่างที่ 2

       30

--------------------------------------------------





การเชื่อมต่อคำ

       ในภาษา PHP จะใช้ "." (dot) ในการเชื่อมต่อคำให้เป็นประโยค ก่อนที่จะทำการแสดงผลออกมา เพื่อสื่อสารกับผู้ใช้งานโปรแกรม

Code ตัวอย่างที่ 1
       <?php
              $Name = "ด.ญ.วาสนา รักเรียน";
              $Class  = "1/2";
              $Number = 1;

              echo $Name." อยู่ห้อง ป.".$Class." เลขที่ ".$Number;
       ?>

ผลลัพธ์ตัวอย่างที่ 1

       ด.ญ.วาสนา รักเรียน อยู่ห้อง ป.1/2 เลขที่ 1

---------------------------------------------------------------------

Code ตัวอย่างที่ 2
       <?php
              $Text = "เลข 1ถึง10 = ";
              $Number = "";
              for($i=1;$i<=10;$i++){
                     $Number .= $i." , ";     
                     //การเขียน $Number .= $i." , " ;  มีค่าเท่ากับ  $Number = $Number.$i." , " ;
              }

              echo $Text.$Number;
       ?>

ผลลัพธ์ตัวอย่างที่ 2

       เลข 1ถึง10 = 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 , 9 , 10 ,

----------------------------------------------------------------------

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คำสั่งแสดงผล echo , print และความแตกต่าง

        คำสั่ง PHP  ที่ทำให้มีการแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นบนหน้าเว็บ ที่มีการใช้กันบ่อยมากที่สุด คือ echo และ print

echo กับ print แตกต่างกันอย่างไร?
       echo เป็นคำสั่งแสดงผล ที่ไม่มีการ return ค่ากลับ ดังนั้นทำให้ระบบมีการทำงานในการแสดงผลเร็วกว่า print และแสดงผลในรูปแบบคำสั่งประโยคที่ไม่ซับซ้อน
       print เป็นคำสั่งแสดงผล ที่มีการ return ค่ากลับ ค่าที่ได้คือ true , false เพื่อใช้ในนำไปตรวจสอบว่าระบบได้ทำการแสดงผลออกมาหรือไม่ และสามารถแสดงผลประโยคที่ซับซ้อนได้ จึงทำให้การแสดงผลช้ากว่า echo อยู่เล็กน้อย


ตัวอย่าง
       <?php
              echo " echo : Hello world !" . "<br />";
              print " echo : Hello world !" . "<br />";
       ?>

ผลลัพธ์
       echo : Hello world !
       print : Hello world !

       ถ้าให้มีการแสดงผลที่ไม่ซับซ้อน คำสั่งทั้ง 2 ก็จะแสดงผลออกมาเหมือนกัน หรือไม่ต่างกันเลย

กำหนดตัวแปร PHP ไว้เก็บค่า

       ตัวแปรเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแทนค่าเพื่อนำไปประมวลผล ตามที่ต้องการที่จะให้โปรแกรมทำงานให้ตามที่ต้องการ เช่น $value=1; โดยเราสามารถกำหนดตัวแปรไว้เรียกใช้งานได้ตลอดหน้า PHP นั้น

กฎการตั้งชื่อตัวแปร

  • ขึ้นต้นด้วย $
  • ตามด้วย A-Z หรือ a-z หรือ 0-9  เช่น  $myvalue;  $MyValue; 
  • ไม่ควรเว้นวรรค แต่ใช้ _ แทน เช่น $my_value;  $My_Value; 
  • Case Sensitive ตัวพิมพ์ใหญ่/เล็กถือเป็นคนละตัว
  • ไม่ตั้งชื่อซ้ำคำสงวน เช่น $_POST; $_SESSION; $_GET; $_SERVER; ฯลฯ
      เมื่อประกาศตัวแปร PHP ไม่จำเป็นต้องกำหนดชนิดของตัวแปร ซึ่งโปรแกรมคอมไพล์จะรู้เองว่า ตัวแปรไหนเป็นข้อมูลชนิดใด 

ชนิดของตัวแปร

  • Boolean  ->  True , False
  • Integer  ->  เลขจำนวนเต็ม
  • Float  ->  เลขจำนวนจริง
  • String  ->  ตัวอักษรที่นำไปคำนวณทางคณิตศาสตร์ไม่ได้
  • Array  ->  ตัวแปรชุด
  • Object  ->  เก็บคุณสมบัติของ Object
  • Resource -> สำหรับอ้างอิงถึงแหล่งภายนอก  เช่น  การเปิดไฟล์ข้อมูล การเชื่อมต่อฐานข้อมูล
  • Null -> ตัวแปรที่ไม่มีค่าอะไรเลยเรียกว่ามีค่าเป็น Null เช่น เมื่อประกาศตัวแปรแล้วแต่ยังไม่ได้กำหนดค่าใดๆให้ตัวแปร กำหนดค่าให้ตัวแปรมีค่าเป็น Null $MySalary = NULL;


ตัวอย่างโค้ด ex_setvalue.php

      <?php
             $Name = 'Manop Kongoon';           //String Variable 
             $RoomNo='405';                             //String Variable 
             $maximum_score = 100;                //Integer Variable 
             $_is_a_student = true;                    //Boolean Variable 
             $TotalScore=10+30; 
             $Score1=10; 
             $Score2=30; 
             $TotalScore=$Score1+$Score2; 

             echo "$Name = " . $Name . "<br />";
             echo "$RoomNo " . RoomNo . "<br />";
             echo "$maximum_score " . $maximum_score . "<br />";
             echo "$_is_a_student " . $_is_a_student . "<br />";
             echo "$TotalScore " . $TotalScore . "<br />";
             echo "$Score1 " . $Score1 . "<br />";
             echo "$Score2 " . $Score2 . "<br />";
             echo "$TotalScore " . $TotalScore . "<br />";
      ?>

ผลลัพธ์ ex_setvalue.php


             $Name = Manop Kongoon
             $RoomNo = 405
             $maximum_score = 100
             $_is_a_student = true
             $TotalScore = 40 
             $Score1 = 10; 
             $Score2 = 30; 
             $TotalScore= 40

-------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างการกำหนดชนิดของตัวแปร ex_typevalue.php
      <?php 
            $x = 12; 
            $x = (integer)$x; 
            $y=‘Manop Kongoon’; 
            $y=(string)$y; 
            $z=95.89; 
            $z = (integer)$z;       //$z=95
            $MyNum=(integer)$z;       //$MyNum=95

            echo $z."<br>"; 
            echo $MyNum; 
      ?> 

ผลลัพธ์ ex_setvalue.php
      95
      95

----------------------------------------------------------------


ข้อมูลบางส่วนจาก https://www.programmerthailand.com/tutorial/post/view/7/php-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2-php